นักวิชาการในพื้นที่ วอน นายกรัฐมนตรี ทบทวนมติ ครม.หลังมีมติ โยกย้ายบิ๊ก ศอ.บต.ฟ้าผ่า

นักวิชาการในพื้นที่ วอน นายกรัฐมนตรี ทบทวนมติ ครม.หลังมีมติ โยกย้ายบิ๊ก ศอ.บต.ฟ้าผ่า

จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ/เห็นชอบในเรื่องแต่งตั้งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนัก สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นั้น สร้างความตกใจแก่ข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงนักวิชาการในแขนงต่าง ๆ

วันนี้ (3มีค.65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ผู้ที่มีบทบาทหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประธานร่วมศาสนาเพื่อสันติภาพสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ด้านประเทศโลกมุสลิม ดำรงตำแหน่ง คณะมนตรีสันติบาทโลกมุสลิม เมื่อพ.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน เป็นคนไทยคนแรก ที่ได้รับเกียรติเป็นคณะกรรมการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม รับรางวัลระดับนานาชาติ “กษัตริย์ฟัยศอล”โดยได้รับโปรดเกล้าฯ จากเจ้าชายคอลิด อัลฟัยศอล องค์ประธานรางวัลกษัตริย์ฟัยศอล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่นครริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง“คณะกรรมการเสนอชื่อและคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมรับรางวัลกษัตริย์ฟัยศอล สาขาบริการอิสลาม ประจำปี 2022” ถ้อยคำหนึ่งที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์ใจความว่า “ เลขาธิการศอ.บต. พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร สร้างประโยชน์ในพื้นที่เป็นอย่างมาก ทั้งต่อพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม การทำงานด้วยความเข้าใจ เข้าถึง ของเลขาธิการศ ศอ.บต. ช่วยสร้างบรรยากาศของความสันติสุขในพื้นที่ ถึงแม้ท่านนับถือศาสนาพุทธแต่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของทุกศาสนา หลายโครงการที่ได้ดำเนินการเกิดผลดีหลายอย่าง หลายต่อหลายองค์กร หลายฝ่ายรู้สึกเสียใจหากมีการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีก็จะเป็นการดีมาก เพราะเลขาธิการประเภทนี้ยากที่จะหาเจอได้” รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. อดีตข้าราชการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ ๒๔ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ นอกจากนั้นไปศึกษาต่างประเทศหลายหลักสูตร เช่น หลักสูตรโดดร่ม, หลักสูตรจู่โจม (Ranger) หลักสูตรการนำทาง (Pathfinder) จากกองทัพบกสหรัฐอเมริกา,หลักสูตรเสนาธิการ (Command and Staff) จากหน่วยนาวิกโยธิน สหรัฐอเมริกา, หลักสูตรการบริหารทรัพยากรป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น เป็นผู้บังคับหมวดเล็ก กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ จ.นราธิวาส, ผู้บังคับกองร้อยลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก ผู้บังคับกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน ผู้บังคับการ ทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน จ.นราธิวาส และปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ในเวลาเดียวกัน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๖

ทำหน้าที่ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิก โยธิน กองทัพเรือ ส่วนในต่างประเทศ เดือน ต.ค. ๒๕๕๔ ถึง ก.ย. ๒๕5๖ ได้รับการคัดเลือกเป็น “ผู้แทนกองทัพไทยและ ผู้แทนประเทศไทย” ไปปฏิบัติภารกิจในตำแหน่ง “ผู้บังคับการพื้นที่เขตใต้ กองกำลังสหประชาชาติประจำ ชายแดนประเทศอิรักและประเทศคูเวต (UNIKOM)” บังคับบัญชากำลังทหารสหประชาชาติ ที่จัดมาจาก ๓๕ ประเทศ กว่า 500 นาย ส่วนการปฏิบัติภารกิจในฐานะข้าราชการพลเรือนปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเวลา ๒ ปี ก่อนได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้า ให้ดำรงตำแหน่งเลขาเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นต้นมา จากการปูพรหมลงพื้นที่ทุกอณูใน จชต.ทำให้ได้รับขนานนามว่า “เลขาติดดิน ขวัญใจประชาชน” ด้วยบุคลิกที่เข้าถึงง่าย และลงไปรับฟังปัญหาของประชาชนในทุกระดับอยู่เสมอ

การทำงานในพื้นที่ จชต.ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะอยู่ในพื้นที่พิเศษ ที่ต้องเข้าใจและสอดรับกับทุกหน่วย การพิจารณาไตร่ตรองเลือกบุคคลที่เหมาะสม เข้าใจอัตลักษณ์และความซับซ้อนละเอียดอ่อนของพื้นที่ กรณีดังกล่าวจึงสร้างข้อสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับพื้นที่ จชต. พื้นที่ที่เรียกได้ว่า ขุมทองของนักการเมือง ซึ่งหากการโยกย้ายในครั้งนี้ เป็นเกมส์การเมืองจริงแล้วนั้น ถือเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจของข้าราชการน้ำดีที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง

Related posts